ในยุคนักเดินเรือสำรวจ เหล่านักเดินเรือมุ่งสู่ทิศตะวันออกเพื่อมายังฮิราโดะ โดยในแผนที่ยุโรปบันทึกชื่อไว้ว่าฟิรันโด( Firando ) เมื่อเดินตามร่องรอยของอดีตที่หลงเหลืออยู่ในทุกซอกมุมของเมืองจะเหมือนได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาในอดีตของ “นครแห่งตะวันตก”
ซาเวียซึ่งเข้ามาถึงคาโกชิมะในปีค.ศ.1549 ได้เริ่มต้นเผยแผ่ศาสนาและเข้ามาในฮิราโดะในปีค.ศ.1550 โดยได้รับอนุญาตให้เผยแผ่ศาสนาจากทาคาโนบุ ขุนนางในสมัยนั้น และได้เดินทางมายังเกาะฮิราโดะถึง 3 ครั้ง |
สร้างขึ้นเพื่อเป็น “โบสถ์คาทอลิคฮิราโดะ” ในปีค.ศ.1913 และได้ก่อสร้างขึ้นในสถานที่ตั้งปัจจุบันในปีค.ศ.1931 จากนั้นได้ก่อสร้าง “อนุสาวรีย์ซาเวีย” ขึ้นที่ข้างโบสถ์เพื่อรำลึกถึงการมาเยือนฮิราโดะของซาเวียในปีค.ศ.1971 ปัจจุบันจึงเปลี่ยนชื่อให้เป็น “โบสถ์อนุสรณ์เซนต์ฟรานซิส ซาเวีย” |
ปีค.ศ.1639 (ปีคันเอ 16) รัฐบาลโชกุนมีคำสั่งให้นำตัวสตรีชาวญี่ปุ่นที่มีบุตรอันเกิดจากการสมรสกับชาวอังกฤษหรือชาวฮอลันดา และบรรดาบุตรหญิงชายเหล่านั้นทั้งหมดไปส่งที่ปัตตาเวีย (จาการ์ตาในปัจจุบัน) ด้วยเรือฮอลันดา โดยไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว จดหมายจางะทะระเป็นจดหมายอันมีค่าที่ส่งมายังบ้านเกิดของเหล่าสตรีและเด็กที่ถูกขับไล่ออกไป |
|
||||||
เรืออังกฤษโคลว์ฟ (Clove) ได้นำเบียร์เข้ามาสู่ฮิราโดะในปีค.ศ.1613 | สีนี้ใช้ทาภายนอกอาคารพาณิชย์ฮอลันดาที่สร้างเสร็จในปีค.ศ.1609 1609. |
อะระชิยามะ โฮอัน ผู้ซึ่งเรียนการแพทย์จากนักเดินเรือสำรวจชาวยุโรป เกิดในตระกูลฮันดะในฮิราโดะ | ผู้เผยแพร่ศาสนา ปิเอโทรนิมุส (Pietronimus) ได้นำยาสูบเข้ามาในฮิราโดะเพื่อใช้เป็นยาในปีค.ศ.1601 | |||
มันเทศเริ่มต้นปลูกที่ฮิราโดะเป็นครั้งแรก หลังจากที่ มิอุระ อันจิน มอบมันเทศเป็นของขวัญแก่ ริชาด ค้อกส์ (Richad Cocks) หัวหน้าอาคารพาณิชย์อังกฤษ | นักเดินทางชาวโปรตุเกสที่เดินทางเข้ามาในฮิราโดะปีค.ศ.1550 บริโภคขนมปังเป็นอาหารหลัก หลังจากนั้นจึงทำให้ขนมปังแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นโดยผ่านจังหวัดนางาซากิ | เอไซผู้ก่อตั้งนิกายรินไซได้เดินทางกลับจากจีนช่วงราชวงค์ซ้อง สู่ญี่ปุ่น แห่งแรกที่เข้ามาคือฮิราโดะ พร้อมได้นำเอาเมล็ดชาเข้ามาปลูกที่สวนฟุชุนเอ็น |
มัทสึระ ชิเงโนบุ ซึ่งสืบทอดเป็นสมัยที่ 29 ได้ทำการบูรณะปราสาทฮิราโดะเก่า โดยออกแบบร่วมกันกับยามากะ โซโค และเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1718 (ปีเคียวโฮ 3) ทัศนียภาพจากหอกลางสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้ไกลจนถึงอิคิในทะเลเกนไค ■Data |
||||
เล่าต่อกันมาว่า ชิเงโนบุ พระสงฆ์ที่มีตำแหน่งสู่งสุดแห่งตระกูลมัทสึระในฮิราโดะได้รับมาจากโอโทโมะ โซริงซึ่งเป็นไดเมียว(เจ้าเมืองใหญ่)ของเมืองบุงโกะในยุคเซงโงะกุ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของช่วงปลายยุคมุโระมาจิ |
เล่าต่อกันมาว่า ชิเงโนบุ พระสงฆ์ที่มีตำแหน่งสู่งสุดแห่งตระกูลมัทสึระในฮิราโดะได้รับมาจากโอโทโมะ โซริงซึ่งเป็นไดเมียว(เจ้าเมืองใหญ่)ของเมืองบุงโกะในยุคเซงโงะกุ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของช่วงปลายยุคมุโระมาจิ |
แสดงการปราบปีศาจที่ประตูราโชมนของวาตานาเบะโนะทสึนะซึ่งเป็นทายาทของตระกูลมัทสึระรุ่นที่5 เวลาลมพัดโดนเครื่องประดับบริเวณศีรษะของนักรบจะมีเสียง แล้วลอยขึ้นฟ้า จึงได้รับการขนานนามดังกล่าว |
บริเวณตอนใต้สุดของชายหาดเซ็นริงะฮามะมีหินอนุสรณ์ที่เกิดของเจิ้งเฉิงกง กล่าวกันว่า เจิ้งเฉิงกงเกิดที่ข้างหินก้อนนี้ในปีค.ศ.1624 | ดินแดนที่มีความสัมพันธ์กับ “เจิ้งเฉิงกง ท่านผู้ได้รับนามสกุลพระราชทาน” ซึ่งถือกำเนิดที่คาวาจิ เนื่องจากทำคุณประโยชน์ให้กับไต้หวันจึงได้รับการยกย่องบูชาเสมือนเทพเจ้าในไทนาน และแม้กระทั่งในแถบมารุยามะก็ยังมีการเคารพสรรเสริญความเป็นวีรบุรุษสืบเนื่องมาโดยตลอด |